มีควันหลงศึกแกรนด์สแลมออสเตรเลี่ยนโอเพ่น 2018 ที่มีนักหวดเอเซีย ชุง ฮยอน ดาวรุ่งจากเกาหลีใต้ทะลุเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศและต้องพ่ายแพ้ให้เทพเฟด-โรเจอร์ เฟดเดอเรอร์ จากสวิตเชอร์แลนด์
ดูจากฟอร์มการเล่นแมตช์ก่อนหน้าของชุง ฮยอน ไม่ธรรมดาครับ โดยเฉพาะรอบ 16 คนสุดท้ายพลิกล็อกล้มโนวัค ยอโควิช อดีตมือหนึ่งโลกมาถึง 3 เซตรวดชนิดหักปากกาเซียนเทนนิสโลก
เหล่ากูรูวิจารณ์กันว่าการมาเจอเฟดในรอบรองชุงน่าจะอาศัยความสดของร่างกายที่ดูฟิตและหนุ่มแน่นกว่ามากเล่นออกมาสนุกสูสี แต่การจะเบียดชนะแบบล็อกถล่มเหมือนในรอบก่อนๆคงยากครับ เพราะชั้นเชิงและรูปเกมส์ของเฟดเดอเรอร์เก๋ากว่าเยอะ และผลออกมาผิดคาดเซตแรกหนุ่มกิมจิโดนต้อนขาด 6-1 ชนิดที่สู้กันไม่ได้เลย และขอยอมแพ้เพราะเจ็บฝ่าเท้าครับ
แมตช์นั้น ผมนั่งดูอยู่ตลอดตั้งแต่ต้นเกมเห็นอาการผิดสังเกตของชุงที่วันนั้นดร็อปลงไปกว่าแมตช์ก่อนๆมาก ดูสีหน้าเล่นเหมือนคนมีทุกข์ การเคลื่อนไหวผิดธรรมชาติของตัวเองที่มีสไตล์เหนียวแน่นวิ่งเก็บทุกลูก
แต่วันเจอเฟดเดอเรอร์แทบไม่ทันบอลเลยครับ มาทราบภายหลังว่าชุงมีอาการเจ็บฝ่าเท้าถึงขั้นรุนแรงมาก ดูจากรูปเท้าแล้วน่ากลัวจริงๆ ครับ บริเวณจมูกเท้าเป็นแผลอักเสบมาเป็นเวลานาน
เห็นแล้วนึกถึงลูกชายผมขึ้นมาทันที เพราะอาการนี้ลูกเคยเป็นมาก่อนตั้งแต่เด็กๆ เป็นแบบไม่รู้ตัว และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสาเหตุมันมาจากอะไร และที่หนักกว่าชุงก็คือลูกผมเป็นทั้งสองข้าง
จนมาได้ประสบการณ์ตรงตอนแข่งคัดเยาวชนทีมชาติครับ วันนั้นอาการเจ็บฝ่าเท้าที่เกิดจากการเสียดสี เป็นแกนหนาแข็งกลายเป็นตาปลาและมาอักเสบรุนแรงถึงขั้นวิ่งไม่ได้ แพ้ให้กับเพื่อน ทั้งๆที่เราไม่เคยแพ้มาก่อนตั้งแต่เจอกันมา ดีที่ยังฝืนใจฝ่าฟันความเจ็บปวดเข้า
ไปอยู่ในทีมชาติได้
หลังจบแมตช์คัดทีมชาติมีผู้ปกครองนักเทนนิสที่เคยผ่านประสบการณ์แบบลูกชายผมแนะนำให้ไปตัดพื้นรองรองเท้าให้ลูกชายแทนพื้นรองที่ติดมากับรองเท้า ตอนแรกผมก็งงครับว่าทำไมต้องตัดพื้นรอง กระทั่งตัดสินใจพาลูกไปตัดพื้นรองรองเท้า และฟังคุณหมอแผนกกายอุปกรณ์ที่ดูแลรักษาเรื่องเท้าที่หาได้ตามโรงพยาบาลใหญ่ หรือร้านรองเท้าสุขภาพดังๆที่มีนักกายอุปกรณ์เฉพาะเช่ือถือได้ ทำให้ผมเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าทำไมลูกเราถึงเจ็บฝ่าเท้า
คุณหมอบอกว่าคนเรามีฝ่าเท้าไม่เหมือนกัน บางคนเกิดมาอุ้งเท้าแบน บางคนอุ้งเท้าสูง บิดเบี้ยวผิดรูป หาน้อยคนนักที่เกิดมาฝ่าเท้าปกติ เมื่อฝ่าเท้าเราไม่ปกติการลงน้ำหนักตอนเดินวิ่งหรือกระโดด ก็จะไปกดทับฝ่าเท้าในส่วนนั้นรับน้ำหนักมากกว่าจุดอื่น นานไปก็จะเกิดฝ่าเท้าหนาเป็นแกนแข็ง กลายเป็นรองช้ำและตาปลา บางครั้งมีหนองและน้ำใสๆอยู่ด้านใน เกิดอาการอักเสบเจ็บระบมไปหมด ขณะที่คนอุ้งเท้าแบนจะหนักกว่าอุ้งเท้าสูงเสียอีกเพราะมีผลต่อการเจ็บข้อเท้า แข้ง เข่า และกล้ามเน้ือส่วนต่างๆ
เอาแค่คนธรรมดาที่ใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป ถ้ามีอาการแบบนี้ก็เจ็บจนแทบไม่อยากเดินแล้วครับ และย่ิงเป็นนักกีฬาเทนนิสที่ต้องใช้เท้าในการเคลื่อนไหวมาก ก็ย่ิงทุกข์ทรมานกว่าหลายเท่า ด้วยความที่เราไม่เคยรู้มาก่อน ตอนแรกก็เข้าใจว่าบอดี้รองเท้าชนิดนั้นไม่เข้ากับเท้าลูก ลองเปลี่ยนยี่ห้อใหม่ๆก็แล้ว แต่ไม่ยอมหายเสียที ถึงขนาดลูกเคยบ่นเจ็บเท้าจนอยากจะเลิกเล่นไปหลายรอบ
ผมและแฟนพยายามหาวิธีช่วยด้วยการเอามีดคมๆมาปาดหนังด้านออกบ้าง เอาหินทรายขัด หรือใช้สารพัดครีมทาเพื่อให้เท้านุ่ม แต่พอได้คุยกับคุณหมอถึงรู้ว่าการทำแบบนั้นมันเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ส่วนต้นตอของมันคือรูปเท้าลูกผมผิดปกตครับ เขาเป็นคนอุ้งเท้าสูง เวลาเดินหรือวิ่ง จะไปลงน้ำหนักที่จมูกเท้าทั้งสองข้างมากเกินไป ดังนั้นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุก็คือต้องหาพื้นรองเท้าที่รองรับกับอุ้งเท่าหรือฝ่าเท้ามาใช้แทนพท้นเก่าที่ติดมากับรองเท้า
หลังใช้พื้นรองรองเท้าได้สักระยะๆก็เห็นความแตกต่างชัดเจนครับ จากเดิมที่มีอาการรองช้ำหรือตาปลาก็หายเป็นปลิดทิ้ง เหลือแค่หนังเท้าด้าน แต่ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
เพราะพื้นรองรองเท้าคู่หนึ่งแพงกว่ารองเท้าเทนนิสเสียอีก ถ้าเป็นของโรงพยาบาลรัฐอาจถูกหน่อยราว 2,000-3,000 บาท ส่วนเอกชนจะเร่ิมกัน 6,000 บาทขึ้นไป บางแห่งเกินหลักหมื่นครับ และใช้ได้ไม่เกิน 6 เดือนหรือดีหน่อยไม่เกิน 1 ปีก็ต้องเปลี่ยนใหม่ บางทีอาจต้องตัดทีละ 2 คู่ แต่ถ้าแลกกับอาการบาดเจ็บของลูกก็ถือว่าคุ้มครับ
——————————– เดอะวินเนอร์