อีกหนึ่งประสบการณ์ในการออกทัวร์ล่าแต้มไอทีเอฟจูเนียร์ของลูกชาย ซึ่งถือเป็นแมตช์ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเกรดเอ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น คือรายการSeogwipo Asia/Oceania Closed Junior championships เกรด บี 1 เมืองเจจู เกาหลีใต้ ต้นเดือนพฤศจิกายน 2560 ช่ือรายการก็บ่งบอกชัดเจนว่านักเทนนิสเยาวชนที่จะลงแข่งได้จะต้องอยู่ในโซนทวีปเอเซียและโอซีเนีย
จุดประสงค์ก็เพื่อให้เด็กเอเซียและโอซีเนียได้ลงเล่นกันมากขึ้น เพราะหากไม่กำหนดนักหวดจากชาติอเมริกันหรือยุโรปที่เป็นมืออันดับต้นๆของโลกจะพาเหรดมาเก็บแต้มกันเยอะ ส่งผลให้เด็กเอเซียที่มีพัฒนาการกีฬาเทนนิสตามหลังชาติตะวันตกมีโอกาสลงไปสัมผัสแมตช์ใหญ่แบบนี้ไม่กี่คน รวมถึงลูกชายผมด้วย ปกติรายการในระดับนี้ถ้าเป็นในสหรัฐฯแร้งกิ้ง 300 กว่าของโลกอย่างเก่งได้เล่นรอบคัดเลือกก็ลุ้นกันตัวโก่งแล้ว
เมื่อระเบียบการแข่งขันกำหนดไว้แบบนี้ทำให้ลูกชายผมที่มีอันดับอยู่ 269 ในขณะนั้น รวมถึงนักหวดไทยอีก 3 คนที่มีแร้งกิ้งไล่เลี่ยกันได้เล่นในรอบเมนดรอว์ รวมถึงนักหวดหญิงอีก 2 คน ทัวร์นาเมนต์นี้เลยมีเพื่อนเด็กไทยไปกันหลายคน
ก่อนเดินทางไปต้องเตรียมตัวล่วงหน้ากว่าทุกครั้ง เพราะเจจูเป็นเกาะใหญ่สุดของเกาหลีใต้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีช่ือเสียง เป็นเมืองฮันนีมูนยอดฮิตของคู่รักเอเชีย บริษัททัวร์นิยมจัดทริปกันถี่ ทำให้ทุกสายการบินต้องจองตั๋วกันล่วงหน้าหลายวัน
เจจูขึ้นช่ือเป็นเกาะสวรรค์ ด้วยสภาพภูมิศาสตร์และภูมิประเทศที่น่าสนใจ เป็นเกาะที่เกิดจากการระเบิดของปล่องภูเขาไฟ เป็นส่ิงมหัศจรรย์ธรรมชาติจากถ้ำลาวา มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยงามอีกหลายอย่าง อุณหภูมิเย็นสบายทั้งปีเฉลี่ย 15 องศาเซลเซียล ตอนลูกผมไปแข่งต้นพฤศจิกายนเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงย่างเข้าสู่ฤดูหนาว เลยต้องเตรียมเสื้อผ้าเครื่องกันหนาวไปพอสมควร มีรุ่นพี่นักเทนนิสเล่าประสบการณ์ให้ฟังว่าบางปีหนาวมากแทบเล่นไม่ออก
โชคดีปีนี้อากาศเย็นสบายในตอนกลางวัน ส่วนกลางคืนค่อนข้างหนาว เลยไม่ค่อยมีผลต่อการแข่งสักเท่าไหร่ อีกทั้งลูกชายเดินทางไปก่อนล่วงหน้า 2 วัน ไม่มีปัญหาในการปรับตัว
การแข่งขันรอบแรก หรือรอบ 64 ลูกชายผมเจอกับนักหวดเจ้าถิ่นแดนกิมจิ เป็นรุ่นพี่ 1 ปี แม้อันดับอยู่ 500 กว่า แต่ดูประวัติประสบการณ์แข่งขันไม่ธรรมดา ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร แต่ถ้าเทียบกับนักเทนนิสอันดับต้นๆของเกาหลีด้วยกันถือว่าไม่หนักมากนัก
ผลการแข่งขันลูกผมชนะ 6-3 6-3 เก็บแต้มสะสมได้ 20 คะแนน ผ่านเข้ารองสองไปเจอนักหวดกระดูกช้ินโตชาวไต้หวัน ซึ่งเป็นมือวาง 4 ของรายการ และเป็นมือ 50 เยาวชนโลกที่เพิ่งบุกมากวาดแชมป์เกรด 2 ในเมืองไทยเมื่อ กลางเดือนตุลาคมไปหมาดๆ ถึงแม้รูปเกมส์จะค่อนข้างสูสีโต้กันดุเดือด แต่จังหวะทีเด็ดทีขาด และความเหนียวแน่นเรายังเป็นรอง สุดท้ายสกอร์ออกมาเราแพ้หลุดลุ่ย 2-6 1-6
ถือเป็นอีกแมตช์ที่แสดงให้เห็นว่าลูกชายผมยังต้องฝึกซ้อม และพัฒนาตัวเองอีกเยอะ ทั้งเรื่องเทคนิค สภาพร่างกาย และที่สำคัญต้องฝึกใจให้แกร่งขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าครับ
—————————–
เดอะวินเนอร์