เดือนตุลาคม ใกล้เข้ามาแล้วและเป็นเดือนปิดเทอมเล็กนานประมาณ 1 เดือนถือเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขของบุตรหลานแต่ขณะเดียวกันก็เป็นความทุกข์ของผู้ปกครองก็ว่าได้ เนื่องจากต้องไปทำงานปล่อยให้ลูกหลานอยู่ตามลำพังหรือฝากคนอื่นดูแลก็ไม่เท่ากับดูแลเอง เพราะเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าช่วงเดือนเมษายน มีเด็กเสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับ 1 รองลงมาได้แก่เดือนมีนาคม พฤษภาคมและตุลาคม ตามลำดับ จะเห็นได้ว่าเป็นช่วงเดือนที่เด็กปิดเทอมใหญ่และปิดเทอมเล็ก� เด็กจมน้ำเสียชีวิตมากที่สุด เป็นอันดับ 1 รองลงมาเป็นอุบัติเหตุทางจราจรที่เหลือเป็นอุบัติเหตุ อื่น ๆ
�การจมน้ำจะแบ่งเป็นเด็กเล็กและเด็กโต ถ้าเป็นเด็กโต อายุระหว่าง 5-6 ปี จะจมน้ำเสียชีวิตจากบ่อ หนอง คลอง บึง สระว่ายน้ำ ในชุมชนหรือหมู่บ้าน ซึ่งบางกลุ่มไม่ได้จงใจไปเล่นน้ำแต่ไปวิ่งเล่นบริเวณใกล้แหล่งน้ำเกิดพลัดตกและจมน้ำเสียชีวิต สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากพ่อแม่ปล่อย คิดว่าลูกดูแลตัวเองได้
วิธีป้องกัน พ่อแม่ควรตระหนักในความเสี่ยง ถ้าเป็นกลุ่มเด็กโต โดยเฉพาะช่วงอายุ 6-7 ขวบ เป็นกลุ่มเป้าหมายที่จะจมน้ำเสียชีวิตมากที่สุด ฉะนั้นเราควรตั้งเป้าไว้ว่าเด็กประถมศึกษาปีที่ 1 ต้องสามารถว่ายน้ำได้ โดยสอนทักษะให้เขาอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ชั่วโมง ซึ่งทางโรงเรียนควรมีส่วนร่วมช่วยด้วย
นอกจากนี้ยังต้องสอนให้เรียนรู้ด้านความเสี่ยง การประเมินแหล่งน้ำว่าเป็นอย่างไร และการช่วยเหลือผู้อื่นจากการจมน้ำ สำหรับกลุ่มเด็กเล็กอย่าลืมว่าเด็ก 5 ขวบ สามารถวิ่งเล่นนอกบ้านได้แล้ว หรือถ้าต่ำกว่า 5 ขวบ ควรตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบบ้านว่าเป็นอย่างไร หากอยู่ใกล้แหล่งน้ำควรทำรั้วกั้นรวมทั้งหาคนดูแลที่ไว้ใจได้ แต่สิ่งสำคัญอย่าประมาทจะดีที่สุด
หนุ่ย ลำปาง