หมายแดงที่ทำให้ไทยต้องอึดอัด
ใครคือ “ฮาคีม”
อาชญา(ลง)กลอน
ธนก บังผล
ทำท่าว่าจะไม่ใช่ปัญหาที่ไทย “เอาอยู่” เสียแล้วครับ
หลังจากที่สำนักงานตำรวจสากลหรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “อินเตอร์โพล” มีหมายแดงผู้ร้ายข้ามแดนขอความร่วมมือให้ไทยจับกุม นายฮาคีม อัล-อาไรบี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน
ใครจะไปคิดว่าการ “ให้ความร่วมมือ” ในฐานะประเทศเล็กๆ วันนั้นจะบานปลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติในวันนี้ จนทำให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยกำลังอยู่ในอาการ “เมาหมัด”
เห็นสถานการณ์กำลังตึงเครียด ผมก็เลยอยากจะสรุปประเด็นให้เข้าใจง่ายๆอย่างนี้ครับ
“อาหรับสปริง” เป็นคลื่นปฏิวัติการเดินขบวน การประท้วงและสงครามซึ่งเกิดขึ้นในโลกอาหรับตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 2553
ประเทศในแอฟริกาและตะวันออกกลางมีความพยายามในการโค่นล้มรัฐบาลในประเทศต่าง ๆ รวมไปถึงบาห์เรน ที่เรียกร้องให้พระราชาฮาหมัด สละราชสมบัติ และเขียนรัฐธรรมนูญใหม่
เมื่อประชาชนออกมาชุมนุมก็ถูกรัฐบาลปราบปราม บ้างก็กดดันให้ตกงาน และมีบางคนถูกริบสัญชาติเลย เหตุการณ์ในบาห์เรนค่อนข้างรุนแรงมาก
นายฮาคีม คนนี้ก็ถูกทางการหมายหัวว่าเป็นหนึ่งในผู้ชุมนุม ถูกตั้ง 4 ข้อหา
ลอบวางเพลิง ,ชุมนุมโดยผิดกฎหมาย ,ครอบครองวัตถุไวไฟ และทำให้รถยนต์ผู้อื่นเสียหาย
แต่เจ้าตัวยืนยันว่าระหว่างเกิดเหตุเขากำลังแข่งฟุตบอล มีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ ใครๆก็เห็น แล้วเขาจะไปก่อคดีได้อย่างไร
เมื่อนายฮาคีม ยืนยันว่าไม่ได้ทำจึงไม่รับผิดกับข้อหาที่ถูกทางการกดดัน จนปี 2557 ก็เลยหนีจากบาห์เรนไปอยู่ออสเตรเลีย กลายเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองและผู้พำนักระยะยาว
มีข่าวรายงานว่านายฮาคีมเพิ่งแต่งงานเมื่อไม่นานนี้ ก็เลยพาภรรยามาฮันนีมูนที่เมืองไทย เมื่อทางการบาห์เรนรู้เข้าก็เลยส่งหมายแดงให้อินเตอร์โพล
เช่นเดียวกับทางการออสเตรเลียที่รายงานมายังไทยว่าจะมีผู้ร้ายตามหมายแดงอินเตอร์โพลเดินทางมา เราก็เลยจับกุมตัวให้ คาสนามบินสุวรรรณภูมิ ตั้งแต่ พ.ย.2561
เรื่องมีแค่นี้ครับ แต่ไม่จบแค่นี้ เพราะฝ่ายผู้ลี้ภัยของออสเตรเลียทำหนังสือแจ้งมาว่านายฮาคีมเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง ไม่ใช่ผู้ร้าย
และยังระบุด้วยว่าการทำงานอินเตอร์โพลมีความผิดพลาดคลาดเคลื่อน ซึ่งก็เป็นเหตุให้อินเตอร์โพลต้องรีบยกเลิกหมายแดง ส่วนไทยก็เตรียมปล่อยตัวกลับออสเตรเลีย
แต่ทางการบาห์เรน ทราบว่านายฮาคีมถือพาสปอร์ตบาห์เรน เลยทำเรื่องให้ไทยส่งตัวนายฮาคีมกลับไปรับโทษที่บาห์เรน ทั้งๆที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างเราด้วยนะครับ
ในระหว่างที่อยู่ในขั้นตอนของกกฎหมาย ปรากฏว่าวันที่ 4 ก.พ. มีภาพนายฮาคีม ในชุดนักโทษถูกใส่ตรวนที่ข้อเท้าออกมา สร้างความโกรธเคืองให้กับผู้ที่สนับสนุนเป็นอย่างมาก
กลายเป็นแฮชแท็ก #SaveHakeem ในทวิตเตอร์ที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก รวมไปถึง #BoycottThailand ด้วย
ข่าวยังรายงานอีกว่า นายฮาคีมได้เบิกความต่อศาล แสดงเจตจำนงค์ไม่ต้องการกลับไปบาห์เรน
ศาลกำหนดให้ส่งคำคัดค้านในวันที่ 5 เม.ย. นี้ และนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 22 เม.ย.
ด้านกระทรวงการต่างประเทศบาห์เรน ออกแถลงการณ์ทันที เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ระบุว่านายฮาคีมเป็นผู้ละเมิดเงื่อนไขประกันตัว แอบหนีไปประเทศอิหร่าน ขณะได้รับอนุญาตพิเศษไปแข่งขันฟุตบอลที่กาตาร์
การตัดสินใจของทางการบาห์เรนให้อินเตอร์โพลออกหมายจับนายฮาคีม เพราะนายฮาคีมหลบหนี ขณะรอพิจารณาคดีในบาห์เรน
ถือเป็นระเบียบมาตรฐานของชาติสมาชิกทั้งหมดของอินเตอร์โพล
นี่แหละครับ ออสเตรเลียก็บอกให้ปล่อย บาห์เรนก็บอกให้ส่งตัวกลับ นายฮาคีมก็เบิกความว่าไม่ต้องการกลับ
เรื่องมะรุมมะตุ้มกันอยู่ในประเทศไทย จนวันที่ 6 ก.พ. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ต้องออกคำแถลงกรณีนี้เลยนะครับ
เชื่อว่าหลายคนคงได้อ่านรายละเอียดแถลงการณ์ของกระทรวงบัวแก้วทั้ง8ข้อ จากสื่อต่างๆแล้ว
พออ่านภาษาทางการทูตจบแล้วก็จะรู้ได้ทันทีเลยครับว่าไทยเรา “ลำบากใจ” กับการถูกกดดันของทั้ง 2 ประเทศมากขนาดไหน
แต่นั่นอาจจะไม่เท่าเวลาที่เรากำลังแย่ แล้วมีคนไทยด้วยกันเองกลับคอยกระทืบซ้ำนี่ล่ะครับ
แหม…เกาะกระแสเก่งเหลือเกิน พ่อคู้ณณณณณณณณ