จู้กหู้กกูกราบสวัสดี
ช่วงนี้ฟุตบอลเตะถี่มาก วันนี้จู้กหู้กกู้จึงมีสาระมาเต็มเหนี่ยว
เกิดคำถามจังหวะการใช้ VAR อีกแล้วสำหรับผู้ตัดสินของพรีเมียร์ลีก โดยในครั้งนี้เกิดขึ้นในเกมระหว่างแมนยูไนเต็ดและเวสต์บรอมวิช
จังหวะนี้เกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลัง โดยเป็นคอเนอร์ กัลลาเกอร์ ที่ได้บอลในกรอบเขตโทษ แล้วบรูโน่ แฟร์นันด์สเตะไปที่ขาของเค้า
กรรมการก็เป่าเป็นจุดโทษทันที ก่อนที่จะมีการดู VAR ในภายหลัง
ผู้ตัดสินดันกลับคำตัดสินและไม่ให้จุดโทษแก่เวสต์บรอมในจังหวะนี้ ซึ่งจากภาพ มันชัดเจนว่าต้องเป็นจุดโทษ (…)
เพราะการสกัดของบรูโน่มันต้องฟาล์วสิเจ้านายและทำให้ทางกัลลาเกอร์เสียโอกาสชัดเจน !
ตำนานของแมนยูไนเต็ดอย่างริโอ เฟอร์ดินานด์ ก็ยังได้ให้ความเห็นในจังหวะนี้ว่า
“มันเป็นการตัดสินที่น่าอัปยศ เค้าตัดสินใจถูกแล้วในจังหวะแรก มันเป็นจุดโทษอย่างแน่นอน ทำไมเค้าถึงยกเลิกการตัดสินของตัวเอง”
ผู้ตัดสินในเกมนี้ก็คือ เดวิด คูต
เค้าก็คือผู้ตัดสินที่คุม VAR ในเกมระหว่างเอฟเวอร์ตันกับลิเวอร์พูล
เค้าคือผู้ตัดสินคนเดียวกันที่ไม่เช็ค VAR ในจังหวะการเข้าบอลของพิคฟอร์ดที่ทำให้ฟาน ไดจ์คต้องเจ็บทั้งซีซั่นนั่นแหละ
เป็นอีกครั้งที่ผู้ตัดสินอังกฤษมีมาตรฐานการใช้ VAR ที่แย่ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะได้รับการแก้ไข
จู้กหู้กกู้คิดเองว่าทางพรีเมียร์ลีก จงใจให้เกิดการผิดพลาดบ่อยๆเพื่อยกเลิก VAR หรือเปล่า ฮา
จะปล่อยผ่านคู่บิ๊กแมทซ์ประจำสัปดาห์เกมที่ลิเวอร์พูลเปิดบ้านเอาชนะเลสเตอร์ ซิตี้
ในวันที่ผู้เล่นบาดเจ็บไปหลายต่อหลายคน ทำให้เขาคนนี้กลับมาฉายแสงอีกครั้ง
แม้ในวันนี้จะต้องเล่นอยู่ที่แบ็คขวา แต่ใช่ว่ามิลเนอร์คนนี้จะโชว์ทักษะการเล่นฟุตบอลอันยอดเยี่ยมไม่ได้
ในตอนก่อนเริ่มเกม ผู้คนต่างกังวลกับรายชื่อนักเตะ ที่ตัวประจำตำแหน่งถูกเปลี่ยนออกไปด้วยอาการบาดเจ็บ ทำให้ทีม เหมือนจะขาดผู้ที่เชี่ยวชาญในตำแหน่งต่างๆ
แต่ทว่า เมื่อเกมเริ่ม ลิเวอร์พูลทำให้เห็นว่า ถึงเพื่อนร่วมทีมจะเจ็บ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะเอามาอ้างและทำให้เล่นได้ไม่ดี
แต่พวกเขากลับเอากำลังใจที่เพื่อนๆฝากมาพาไปเข้าประตูถึง 3 ลูก
ต้องยอมรับว่าผู้เล่นที่ทำให้เกมนั้นมีโอกาสหลายต่อหลายครั้ง แต่การสกัดกั้นคู่ต่อสู้เข้ามาทำประตูได้
นัดนี้ก็ต้องขอปรบมือให้ เจมส์ มิลเนอร์ คนนี้ไปเลย
เจมส์ มิลเนอร์ อายุไม่น้อยแต่ช่างมีประโยชน์มากมาย
ลุงแถวนี้ น่าเอาเป็นตัวอย่างบ้างเนอะ ไปดีกว่า..บาย