THOR (2011) เป็นงานเปิดตัว ธอร์ (คริส เฮมสเวิร์ธ หนุ่มเมลเบิร์นที่ฉายแววดังโดดเด่นกว่า ลุค และ เลียม มาตั้งแต่ในมุ้ง) หลังจากผู้ชมทั่วโลกรู้จักกับไอรอนแมนแล้ว 2 ภาค (Iron Man – 2010 /Iron Man 2 – 2011) ตามมาด้วย ฮัล์ค(The Incredible Hulk – 2011) นักวิทยาศาสตร์ที่จะกลายร่างจากหนุ่มเนิร์ดเป็นกล้ามโตตัวเขียวเวลาโกรธ
พอได้เจอ เทพตกสวรรค์ ตัวเป็นๆ ใครๆ ก็ย่อมตื่นเต้นกับแอสการ์ด, โลกิ, ค้อนโยเนียร์, และเจน ฟอสเตอร์!
LINK: https://youtu.be/8Ltc-BfxBhY
THOR: The Dark World (2013) สานต่อศึกชิงบัลลังก์ที่ โลกิ (ทอม ฮิดเดิลสตันลอนดอนเนอร์หนุ่มมากความสามารถเจ้าของรางวัลลูกโลกทองคำ) แย่งความโดดเด่นไปแยะ แล้วจักรวาลมาร์เวลก็ทิ้งช่วงไปแจ้งเกิดฮีโร่อย่าง Guardians of the Galaxy, Ant-Man, Black Widow, BlackPanther, และ Doctor Strange
กว่าจะกลับมาปล่อย THOR: Ragnarok (2017) ที่ไทก้า ไวติติมานั่งแท่นผู้กำกับทำให้เคท แบลนเชตกลายเป็น มารร้ายเฮลา สุดโบ๊ะบ๊ะ
LINK: https://youtu.be/xK1OXKHoJ3o
THOR: Love And Thunder (2022) ยังอาศัยวิสัยทัศน์ของ ไวติติ มาประคับประคองภาคที่ 4 ของเทพธอร์ ซึ่งอาจจะมีช่วงหวือหวาระเบิดภูเขา (วังทรงประหลาด) เผากระท่อม (ดาวทั้งดวงแทบไม่เหลือซาก) พร้อมหน้าพร้อมตากับเหล่า Guardians of the Galaxy
แต่ครึ่งหลังก็ขยี้ปมอกหักรักคุดเมื่อรักแรกหวนคืนกลับเข้ามาในชีวิตที่ไร้เป้าหมายอีกครั้ง
มุมโรแมนติค–คอมิดี้นี่ทำได้ขบขันสมศักดิ์ศรีผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์บทหนังแนวขำฮา ไปพร้อมกับกิจขอกำลังสนับสนุนจากซูส (รัสเซล โครว์ เล่นฮาจนน่าให้รางวัล) ก็ “สายฟ้า” อุปกรณ์เพียงหนึ่งเดียวที่คงจะกำราบทุกสมรภูมิได้อยู่หมัด??
LINK: https://youtu.be/qLZkyxazZVs
Marvel Comics เปิดตัว กอร์ ครั้งแรกใน Thor: God of Thunder #2 ต้นปี2013 พอมาเป็น ตัวร้าย ใน ธอร์ ด้วยรักและอัสนี ภาคล่าสุดนี้ ก็ได้ คริสเตียนเบล เจ้าของรางวัลออสการ์สายดราม่า (The Fighter – 2011) มาตีความตัวละคร แถมเมคอัพจัดหนักจนแทบจำไม่ได้ เล่นเอาเครียดทั้งเรื่องเลยเชียวล่ะ!
ติดดาว: 5 ดาวแบบมาครบทั้งบู๊ ทั้งรัก ทั้งฮา