Saturday, April 19, 2025
More

    "TIER 1"ฟาบริซิโอ โรมา

     

    จู้กหู้กกู้กราบสวัสดี

    ในช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่น สิ่งที่น่าสนใจเป็นอันดับ 1 ก็คงหนีไม่พ้น การย้ายทีมของนักฟุตบอลซึ่งมีข่าวลือข่าวจริงออกมาแทบทุกชั่วโมง

    แต่…วงการฟุตบอล คงไม่มีใครไม่รู้จักหมอนี่

    ฟาบริซิโอ โรมาโน่ เจ้าของวลีเด็ด “Here We Go” ที่มีแฟนบอลต่างติดตามเกือบ 10 ล้านคน

    โรมาโน่ เป็นชาวอิตาลี ทำงานให้สกาย สปอร์ตตั้งแต่อายุ 19 ปี ในปี 2019 โลกเริ่มรู้จักมากขึ้น ด้วยวลีเด็ด Here We Go

    ถ้าหมอนี่พูดประโยคนี้เมื่อไหร่ รอชูเสื้อได้เลย โรมาโน่ มีสายข่าววงในจำนวนมาก เขาเริ่มด้วยการผูกมิตรทุกๆวงการอาชีพ ที่ทำงานให้สโมสรฟุตบอล ตั้งแต่แม่บ้านยันพนักงานโรงแรม

    โรมาโน่มีสายข่าววงในที่ค่อนข้างแม่นยำในตอนนี้ เขาทำงานได้ทุกที่บนโลกด้วยมือถือเพียงเครื่องเดียวในการรายงานข่าว

    ไม่ว่าคุณชอบใคร คนไหน ถ้าหมอนี่ยังไม่รายงาน นั่นก็แปลว่าอาจเป็นข่าวกระแสมากกว่า บางข่าวมาช้าแต่ชัวร์ รายละเอียดครบถ้วน ด้วยข้อความกระชับ เข้าใจง่าย

    “TIER 1” คำนี้เริ่มจะได้ยินกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ในแวดวงข่าวสารการซื้อขายตัวนักเตะในวงการฟุตบอล ซึ่งคำนี้จะถูกใช้แทนเลเวลความน่าเชื่อถือของนักข่าวในการนำเสนอของพวกเขา

    และหนึ่งใน Tier 1 ที่กลายเป็นเจ้าพ่อข่าวซื้อขายตัวฉกาจ ณ เวลานี้ ที่อาจเรียกว่าเป็น “Top of the Tier” หรือตัวพ่อคงไม่ผิดนัก หนีไม่พ้น ฟาบริซิโอ โรมาโน่ … ที่ปรากฎชื่อเขามากกว่านักฟุตบอลด้วยซ้ำไป

    เขาเป็นใครมาจากไหน และการทำข่าวแบบที่ว่ากันว่า “วงใน” แท้จริงแล้วมัน “วงใน” จริงหรือ ?

    ยุคสมัยของวงใน

    ก่อนจะรู้จัก ฟาบริซิโอ โรมาโน่ เราควรรู้จักโลกของการขายข่าวซื้อขายในวงการฟุตบอลก่อน เพราะในส่วนนี้มีผลอย่างมากที่ทำให้นักข่าวอย่าง โรมาโน่ กลายเป็นคนเบื้องหน้าที่คนทั้งโลกพร้อมใจกดติดตามโดยไม่อาจเลี่ยงได้

    ย้อนกลับไปเมื่อ 10-20 ปีก่อน วัฒนธรรมการเสพข่าวซื้อขายในฟุตบอลนั้นไม่ได้เหมือนกับทุกวันนี้ ในแง่ของความตื่นเต้นและความน่าสนใจคงไม่หนีกันนัก

    แต่สิ่งที่แตกต่างมาก ๆ ซึ่งเกิดขึ้นในยุคนี้คือ นี่คือยุคสมัยแห่ง “วงใน” อย่างแท้จริง

    จากหนังสือพิมพ์ สู่ข่าวบนหน้าเว็บไซต์ ทั้ง 2 แพลตฟอร์มนี้มีกฎเรื่องของเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง หนังสือพิมพ์ต้องรอรอบเวลาตีพิมพ์

    ขณะที่เว็บไซต์นั้นแม้จะเร็วขึ้น แต่การเขียนข่าวแบบเต็ม ๆ ตามรูปแบบการเขียนที่ถูกต้องนั้นก็เสียเวลาเกินกว่าจะอัพเดทแต่ละดีลได้แบบนาทีต่อนาที

    กฎของเวลาเหล่านี้ทำให้กว่าจะได้อ่านข่าว Official สักข่าวนั้น เป็นอะไรที่ต้องรอกันจนแทบหมดความอดทนเลยทีเดียว

    ทว่าหลังจากเข้าสู่ช่วงหลังยุคปี 2010 เป็นต้นมา สื่อในรูปแบบของโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ เฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ เริ่มเข้ามามีบทบาทในการนำเสนอมากขึ้น

    เราจะได้ติดตามข่าวอัพเดทการซื้อขายแบบถี่ขึ้น เนื่องจากเนื้อหาที่ลงในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ของสำนักข่าวดังที่ลงมาใช้งานแพลตฟอร์มนี้เองสามารถนำเสนอได้รวดเร็ว ไม่ต้องอิงตามกฎการเขียนข่าวที่ยุ่งยากประกอบด้วย พาดหัว, โปรย, บทสัมภาษณ์ และปิดท้ายด้วยสรุป เปลี่ยนเป็นข้อความสั้น ๆ แต่ได้ใจความ

    จากข่าว 4-5 พารากราฟ ถูกตอนลงเหลือไม่กี่ประโยค นั่นทำให้กรอบของเวลาและความยุ่งยากหายไป ทว่าถึงอย่างนั้นก็ยังมีความยุ่งยากบางจุดที่ซ่อนอยู่

    เพราะอย่าลืมว่ายูสเซอร์ใน เฟซบุ๊ก หรือ ทวิตเตอร์ ของแต่สำนักข่าวนั้นมีความเป็นทางการ ทุกข่าวที่นำเสนอแม้จะใช้เวลาในการเขียนน้อยลง

    แต่การคัดกรองในกองบรรณาธิการนั้น ทำให้อาจจะมีข่าวบางข่าว เรื่องบางเรื่องล่าช้ากว่าความเป็นจริง

    และในยุคที่โลกเชื่อมต่อกันหมด ความล่าช้าเพียงไม่กี่นาทีอาจหมายถึงการ “ล้าหลังและเสียโอกาส”

    ดังนั้นสิ่งที่เข้ามาแก้ปัญหาจุดนี้ คือกลุ่มนักข่าวของสำนักข่าวแถวหน้า ตัดสินใจออกมาเปิดยูสเซอร์ของตัวเองที่พวกเขาจะสามารถโพสต์อะไรก็ได้ ไม่มีใครห้าม

    จะข่าวจริง ข่าวปลอม ข่าวลือ หรือข่าวที่อ้างว่ามาจากวงใน นั่นคือสิ่งที่กลุ่มนักข่าวที่แยกตัวบินเดี่ยวเหล่านี้พร้อมนำเสนอ …

    จู้กหู้กกู้มาวันนี้สาระล้วนๆมั้ยล่ะครับ จะไม่ ตบมืออีกเหรอ.. เอ้า
    ตบมือ

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments