เรื่องราวของ “แวมไพร์” หรือ “ผีดูดเลือด” ในโลกของภาพยนตร์ ไม่มีอะไรที่ใหม่อีกแล้ว ใครที่เลือกจะหยิบเรื่องราวผีร้ายพวกนี้มาเล่า ก็ไม่ง่ายที่จะหาทางแหวกแนวไปจากชิ้นงานเก่า ๆ ที่เคยทำมา
ซึ่ง Abigail งานกำกับของ แม็ตต์ เบ็ตติเนลลี่-โอลพิน และไทเลอร์ กิลเล็ตต์ ก็เจอหนทางที่บอกเล่าเรื่องแนวแวมไพร์ได้อย่างสนุก บวกกับฝีมือการทำงานของผู้กำกับคู่นี้ในภาพยนตร์สยองขวัญ เรื่อง Ready or Not (2019) รวมถึง Scream (2022) และScream VI (2023) ก็พอจะรับจะกันได้อยู่ว่า Abigail คงจะไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวัง
หากสังเกตในงานชิ้นเก่า ๆ ของ แม็ตต์ เบ็ตติเนลลี่-โอลพิน และไทเลอร์ กิลเล็ตต์ นั้น “ตัวเอก” มักจะเป็น “ผู้หญิง” ที่ต้องตกในสถานการณ์สุดระทึกปนสะบักสะบอม ต้องเอาตัวรอดจากการถูกหมายเอาชีวิตจากตัวละครร้ายที่เป็น “คน”
ใน Abigail ตัวละครหลักที่เป็น “ผู้หญิง” ก็มีชะตากรรมไม่ต่างกัน เพียงแต่หนนี้สิ่งที่ต้องต่อกรกลับไม่ใช่มนุษย์ แต่ดันเป็นแวมไพร์ และตัวละคร “เด็กหญิง” สวมบทเป็นผีดูดเลือดไปซะเลย
ส่วนเรื่องราวผูกเอาการก่ออาชญากรรมเข้ามาผสมปนเป เพื่อให้มีน้ำหนักในการสื่อ “สาระ” นั่นคือการปอกเปลือกสัญชาตญาณดิบของความเป็นมนุษย์
ภาพยนตร์กำหนดให้เรื่องสยองขวัญเกิดขึ้นในคืนเดียว เริ่มต้นจากกลุ่มคน 6 คนที่ไม่รู้จักมักจี่กัน โดยมีข้อห้ามว่าทั้ง 6 คนนี้ต้องไม่แพร่งพรายตัวตนที่แท้จริง พวกเขาถูกจ่ายงานให้ทำปฏิบัติการ “จับเด็กเรียกค่าไถ่” จากครอบครัวเศรษฐีสุดมั่งคั่ง
ตามคำสั่งของ แลมเบิร์ต (จิอันคาร์โล เอสโพซิโต้) ชายที่อยู่เบื้องหลังแผนการนี้
การลักพาตัว เด็กหญิงอบิเกล (อลิชา เวียร์) จากคฤหาสน์ใหญ่ในเมืองก็ทำได้ไม่ยากเย็น หลังจากวางยาเด็กจนหลับ จับขึ้นรถ และขับมายังจุดนัดหมายกับคนสั่งการที่คฤหาสน์หลังใหญ่แห่งหนึ่งนอกเมือง
จากนั้นก็ขังเด็กหญิงไว้ในห้องชั้นบน โดยเงื่อนไขคือแก๊งลักพาตัวกลุ่มนี้ “ต้องเฝ้าเด็กไว้ 1 คืน!”
ช่วงเวลาต่อจากนี้คือการนับถอยหลังว่าก๊วนอาชญากรที่มีอยู่ 6 คนประกอบไปด้วย
แฟรงก์ อดีตนักสืบรับบทโดย แดน สตีเว่นส์ พระเอกหนุ่มจาก Beauty and the Beast, โจอี้ อดีตแพทย์หญิงจากกองทัพ สวมบทโดย เมลิสซ่า บาร์เรร่า, ปีเตอร์ (เควิน ดูแรนด์) นักเลงร่างกำยำ, แซมมี่ (แคธริน นิวตัน) แฮ็กเกอร์สาว, ริคเกิลส์ (วิลล์ แค็ตเล็ตต์) ทหารที่เป็นพลแม่นปืน และดีน (แองกัส คลาวด์) คนขับรถ
จะได้สัมผัสกับความสยดสยองโหดเหี้ยมแบบเลือดสาดกระจายเป็นลิตร จากเงื้อมมือและเขี้ยวคมของ เด็กหญิงอบิเกล แวมไพร์สุดแสบที่ไล่ล่าและโจมตีทุกคนในชุดบัลเล่ต์
https://www.youtube.com/watch?v=acTzLqeiVMs&t=63s
ถือว่า Abigail เป็นการจับงานปล้นมารวมกับความสยองขวัญได้อย่างสนุกสนาน วางจังหวะให้คนดูได้พักหายใจอยู่บ้าง แต่ก็ชั่วประเดี๋ยวประด๋าว เพราะจากนั้นผู้ชมก็จะต้องตามติดตัวละครที่เหลืออยู่ ไปดูการรบทัพจับศึกสู้กับผีดูดเลือดครั้งแล้วครั้งเล่า
ซึ่งต้องชมการเซ็ตบรรยากาศในแต่ละฉากที่ทำได้อย่างน่าสะพรึง ทั้งสภาพห้องหับจากชั้นบนยันชั้นล่าง หรือหลายซอกหลืบที่ชวนให้จินตนาการว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเวลาต่อมา เรียกว่าใช้พื้นที่อันจำกัดได้อย่างคุ้มค่าและได้ผลต่อความรู้สึกของผู้ชม
จัดเป็นภาพยนตร์ที่เสิร์ฟความบันเทิงอย่างเต็มที่ ผ่าจินตนาการในการเสกสรรปั้นเรื่องเกี่ยวกับแวมไพร์แบบร่วมสมัย และยังให้เชื้อด้านดีบางอย่างคืนกลับสู่ผู้ชม
ที่เห็นอย่างจะแจ้งก็คือ ความผิดพลาดหรือล้มเหลวในชีวิต หากคิดหาโอกาสกลับตัว และตั้งมั่นด้วยจิตใจที่มั่นคง ก็จะเป็นเครื่องฉุดรั้งไม่ให้คนผู้นั้นหลงวนอยู่กับกิเลส…
ไม่ว่าจะทั้งกับ “มนุษย์” หรือ “แวมไพร์”
Blue Bird20/4/67