Friday, April 26, 2024
More
    Homeบทความทั่วไปตะลุยแดนโรตี

    ตะลุยแดนโรตี

    17.ตะลุยหวดแดนโรตี

    ส่ิงสำคัญของนักกีฬาที่ต้องเดินทางไปแข่งขันในต่างแดนคือการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะเร่ืองอาหารการกิน ตอนลูกผมเร่ิมเดินทางไปแข่งต่างประเทศใหม่ๆ มีปัญหาเร่ืองนี้พอสมควร ด้วยความที่เขาเป็นเด็กกินยากมาตั้งแต่เล็กๆ โตขึ้นก็ยังปรับตัวไม่ค่อยได้ ประเทศไหนที่มีวัฒนธรรมการกินที่แตกต่างไปจากบ้านเราจะกินอะไรแทบไม่ได้เลย ทำให้ไม่มีเรี่ยวมีแรงในการแข่งขัน

    ประเทศที่ถูกกล่าวขานมากที่สุดก็คืออินเดียครับ ดินแดนที่ผู้คนแทบจะเดินชนกัน ถึงแม้อินเดียจะมีอาหารมากมายและหลากหลายให้เลือก ร้านค้าตามท้องถนนตั้งกันเรียงรายเต็มไปหมด แต่ก็ใช่ว่าคนต่างถ่ินจะซ้ือหามาทานได้ตามใจชอบ ย่ิงเป็นนักกีฬาย่ิงต้องระวังให้มาก พราะร่างกายไม่คุ้นเคยกับอาหารท้องถ่ิน ท้องไส้อาจปั่นป่วนได้


    จากประสบการณ์ของผู้ปกครองนักเทนนิสรุ่นพี่ที่เคยส่งลูกไปแข่งขันรายการไอทีเอฟที่ประเทศอินเดียแนะนำว่าถ้าไปเล่นทัวร์นาเมนต์ที่อินเดีย ส่ิงสำคัญอย่างหนึ่งก็คือต้องเตรียมเสบียงให้พร้อม ควรจัดหาอาหารแพ็กใส่กระเป๋าให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ อย่างน้อยๆก็เอาไปตุนไว้กินม้ือเที่ยง หรือในสนามแข่งขันเพราะส่วนใหญ่จะไม่มีร้านอาหารให้เลือกมากเหมือนบ้านเรา

    นี่คือเหตุผลว่าทำไมต่างชาติไม่ว่าจะเป็นประเทศในแถบเอเซียหรือยุโรปถึงชอบเดินทางมาล่าแต้มในบ้านเรามาก เพราะมีอาหารให้เลือกกินเยอะและfราคาถูก การเดินทางสะดวกสบาย แค่ลงเคร่ืองต่อรถจากสนามบินแถมยังใช้เวลาเดินทางไม่นานก็ถึงสนามแข่งขัน

    ที่อินเดียแต่ละปีมีแมตช์ให้เล่นมากไล่ตั้งแต่เกรด 5 ยันเกรดบี 1 เน่ืองจากเป็นประเทศใหญ่และมีประชากรมากเป็นอันดับสองรองจากจีน เม่ือมีรายการในประเทศให้แข่งมาก นักเทนนิสอินเดียหลายคนเลยลงแข่งแต่ในบ้าน รอสะสมแต้มมากพอค่อยเดินทางไปหาประสบการณ์ในต่างแดน ส่วนนักเทนนิสต่างชาติจะเดินทางไปแข่งที่อินเดียน้อยกว่าประเทศอ่ืนๆ เพราะมีข้อจำกัดเร่ืองอาหารการกิน และสนามแข่งขันที่มักไปจัดกันต่างเมือง ต้องเดินทางกัน 2-3 ต่อกว่าจะถึงที่หมาย แค่เดินทางก็เหน่ือยแล้วครับ


    ขณะที่ส่ิงอำนวยความสะดวกทั้งน้ำแข็งก็ไม่มีบริการและหาซ้ือไม่ได้ รอบแรกๆไม่มีกรรมการตัดสินต้องนับแต้มกันเอาเอง ลูกคาบเส้นก็มักตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบตลอด เพราะไม่มีประสบการณ์เถียงสู้เขาไม่ได้ ส่วนลูกชายผมมีโอกาสไปแข่งที่อินเดียครั้งแรกตอนอายุ 15 ไปเล่นเกรด 4 ที่เชนไนและไฮเดอราบัด ทั้ง 2 รายการกลับบ้านมือเปล่า แถมนำ้หนักลดฮวบถึง 4 กิโลกรัม

    เว้นไปเกือบ 2 ปีกลับไปแข่งอีกครั้งรายการบี 1 ที่ปูเน่ เม่ือปลายเดือนพฤษาคม 60 ลงเล่นกันตั้งแต่รอบคัดเลือกไปจอดอยู่ที่รอบ 2 เมนดรอร์ คว้ามาได้ถึง 30 แต้ม แต่ก็ต้องแลกกับน้ำหนักตัวที่ลดลงไป 5 กิโลกรัม เรียกว่าไปแต่ละครั้งสะบักสะบอมกลับมาทุกที ถามพี่ๆเพ่ือนๆ นักเทนนิสคนไทยที่เคยไปแข่งอินเดียต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าหากไม่จำเป็นไม่มีใครอยากมาแข่งที่นี้อีก เช่นเดียวกับลูกชายผม แต่ถ้าคิดจะเป็นนักรบลูกสักหลาดกันต่อไป มันต้องตะลุยได้ทุกสมรภูมิครับ
    ———————————— เดอะวินเนอร์

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments