Friday, April 26, 2024
More
    Homeคนข่าวมีรางวัลโน้ต-เนชั่น ชอบเป็นนักข่าวที่ถ่ายรูปได้

    โน้ต-เนชั่น ชอบเป็นนักข่าวที่ถ่ายรูปได้

     

    โน้ต เนชั่น-กัปนาท ละออง นักข่าว-ช่างภาพ มือฉมัง นสพ.เนชั่น และอดีตนักข่าวนสพ.เดลินิวส์

    ในวัย 30 ปี แม้พรรษาในอาชีพนักข่าวยังน้อยนิด แค่ 6 ปี (เดลินิวส์2 ปี เนชั่น 4 ปี )แต่เรื่องราวและผลงานที่ได้ โดยเฉพาะรางวัลภาพจากสมาคมต่างๆ ของหนุ่มน้อยคนนี้ มันฝีมือเกินตัว น่าจะทำนายอนาคตเส้นทางข่าวข้างหน้าได้

    ม.กรุงเทพ บ่มเพาะชีวิตข่าวนสพ.
    จากเด็กหนุ่ม จ.สุโขทัย เข้าเมืองหลวงมาเรียน วารสารสิ่งพิมพ์ ที่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่นั่นทำให้เขา ได้ฝึกทำหนังสือพิมพ์ ฝึกพิมพ์ข่าวเขียนข่าว ฝึกถ่ายรูปมีการตั้ง บก.และ บก.บห. โดยเริ่มจากการเป็น บก.ข่าวกีฬา เพราะพื้นฐานชอบกีฬามาก่อน กระทั่งเรียนจบเมื่อปี 2555 สมัครงานเข้าทำงานที่ น.ส.พ.เดลินิวส์ เข้างานวันแรก วันที่ 15 ก.พ. แต่พอผ่านมาได้เดือนนิดๆ ทั้งๆที่อยู่ในช่วงทดลองงาน เขาก็ได้รับรางวัลภาพถ่ายที่ต้องจดจำไปตลอดชีวิต

    เด็กฝึกเดลินิวส์ ทำข่าวจับตัวประกัน
    เจ้าตัวเล่าด้วยความภูมิใจ วันเกิดเหตุฝึกงานกับพี่ต่อ เดลินิวส์ -ประพงษ์ แหลมแจง เข้าเวรเช้า 8 โมง ขึ้นรถกับพี่ต่อ มีเหตุนี้ต่อเนื่องตั้งแต่เวรดึกจนเวรเช้า ก็มาแตะมือกับเวรเช้า ตำรวจก็ล้อม เป็นเหตุคนเมายาบ้า จับเมียตัวเองเป็นตัวประกัน ที่เกิดเหตุอยู่แถวๆ ตีนสะพานพระราม 3 ประมาณนั้น มีการเจรจากันตั้งแต่ตี 4 ครึ่ง จนถึง 8-9 โมงเช้า หน่วยอรินทราช 26 ก็มา แล้วพี่ต่อ ก็จับผมไปวางจุดไว้

    อยู่ท่ามกลางสื่อรุ่นพี่

    ตรงนั้นมีผม มี พี่แบงก์ ไทยรัฐ มีพี่กอล์ฟ เนชั่น อยู่ 3-4 คน อีกฝั่งก็มีอีกกลุ่มหนึ่งอยู่เป็นพี่ๆนักข่าวอยู่ ตอนนั้นใช้นิคอน ดี 7000 เขาก็เจรจากัน มียื่นบุหรี่ให้สูบ อะไรพวกนี้ ก็ถ่ายเก็บบรรยากาศ ก็มีเลนส์ 2 ตัว 16-85 กับ 70-200 เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่รู้จะเอายังไงดี สุดท้ายจบที่ 16-85 เพราะคิดว่าน่าจะเหมาะ

    ตกใจเสียงปืน แต่ยังไงต้องได้รูป
    จุดที่ผมนั่งไปอยู่ติดกับอรินทราชที่จะเข้าไปชาร์จ ไปนั่งไปขวางทาง เขาก็บอกน้องหลบหน่อย ผมก็หลบ ก็ไม่เข้าใจว่าจะต้องหลบทำไม คิดว่าเขาคงจะเข้าไปคุย หรือเข้าไปชาร์จ เราก็ไม่เคยเจอมาก่อน พอเขายิงปืนไฟฟ้าก็ตกใจมาก เพราะมันดัง แต่ด้วยความตกใจ เราก็กด คิดว่าเป็นช่างภาพ เป็นนักข่าวในตัว ยังไงก็ต้องให้ได้รูป ภาพจะสั่นไหวยังไง ก็ต้องกดถ่าย กดเสร็จแล้ว พวกพี่ๆ นักข่าว ก็กรูกันเข้าไป ตอนนั้นก็ตกใจ ไม่คาดคิดว่าจะได้รูป จนเหตุการณ์เสร็จสิ้น จับผู้ต้องหาไป สน.เสร็จ ก็ยังไม่รู้ว่าเราได้ภาพอีก

    หน.ข่าวดีใจ เด็กฝึกถ่ายรูปดีเกินคาด
    พอเข้ารถ พี่ต่อถามว่าเราได้รูปมั้ย ก็บอกว่าจังหวะนั้นเราได้รูป ประมาณ 10 รูป พี่ต่อเขาขอลองดู จริงๆ ผมได้ 14 รูปในเฟรมนั้น แต่ที่ใช้ได้ ประมาณ 7 รูป ทุกอย่างได้หมด พี่ต่อ บอกว่ารูปนี้ได้ บอกหัวหน้า ตอนนั้น หัวหน้าโก้ อาชญากรรมเดลินิวส์ ก็ตีรถกลับเลย พี่โก้ ก็เรียกไปเอารูปให้เขาดู เขาก็ดีใจ ว่าเราเป็นเหมือนเด็กฝึก แต่ถ่ายรูปได้อะไรอย่างนี้

    ตั้งแต่ต้นจนจบ ถ่ายไป100กว่ารูป

    ตอนแรกก็รู้สึกงงๆ ว่าตกลงได้ใช่มั้ย แต่เรามั่นใจ เพราะเราก็กดรูปไป คือเราก็ตกใจแต่ก่อนที่เราจะสะดุ้ง มือเราก็พร้อมอยู่แล้ว วันนั้นจำได้ว่า กดไป 100 กว่ารูป เป็นรูปที่ถ่ายตั้งแต่แรกเลย ตั้งแต่เจรจา จนยื่นโทรศัพท์ โน่นนี่นั่น ใช้หน้า 1 เดลินิวส์ 5 รูป เป็นภาพต่อเนื่อง 4 และรูปเดี่ยว 1

    แค่4 รูปแต่กวาดรางวัลเกือบทุกที่
    สำหรับรูป 4 รูปนั้น ทำให้ได้บรรจุทำงานที่ น.ส.พ.เดลินิวส์ แล้วต่อมาภาพนี้ก็ได้รางวัลทั้งของอิศรา และสมาคมช่างภาพ อิศรา ได้รางวัลดีเด่น ช่างภาพจากทั่วประเทศ แล้วก็ได้รองชนะเลิศภาพข่าวต่อเนื่อง ได้ชนะเลิศภาพเดี่ยว อาชญากรรม แล้วมาได้สมาคมช่างภาพอาชญากรรม ที่พระราม แล้วก็มาได้สมาคมฯ ของพี่ตัวเล็ก ตอนนั้นรู้สึกว่า เราน่าจะทำอะไรได้ต่ออีกจากตรงนี้

    ฝีมือแค่ 10 แต่จังหวะต้อง90
    โน้ตเล่าต่อว่า ภาพนั้นเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้รู้สึกว่านี่คือภาพข่าว ที่ต้องใช้ฝีมือระดับหนึ่ง 100% ให้ฝีมือ 10 ให้โอกาสและจังหวะ 90 แล้วพอถ่ายมาได้ หลังจากนั้นมาก็ชอบถ่ายภาพข่าว แล้วพัฒนาจากตรงนั้นให้มันชินกับโอกาส ชินกับจังหวะ กระทั่งได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้า ให้ไปทำข่าวเจาะ ทำข่าวอะไรต่างๆ แต่ลงตระเวนก็อยู่เขตใต้ บก.น.5 เป็นหลัก

    ย้ายค่ายมาอยู่เนชั่น โชว์งานภาพต่อเนื่อง
    ส่วนผลงานที่เนชั่น มาได้รางวัลเป็นภาพน้ำท่วม กำลังขึ้นรถเมล์ ได้รางวัลชมเชย ของสมาคมพี่ตัวเล็ก (ศิโรจน์ มิ่งขวัญ)ไม่ได้ส่งสมาคมใหญ่ แล้วก็มีอีกอันหนึ่ง เป็นรูปปล้นปืนที่สามยอด ปล้นร้านปืน ที่คนจีนมาปล้น ผมได้ในจังหวะที่บุกเข้า ถึงคนแรกๆ มีพี่เอกรัตน์ น่าจะถึงก่อนผมนิดหนึ่ง เคสนั้น ก็ถือว่าโชคดี เพราะตระเวนอยู่แถวๆ นั้น ตอนนั้นอยู่คมชัดลึกแล้ว ได้ยิน ว.ก็ไป ก็ได้จังหวะที่เขารัดมือกัน ทันพอดี

    ชอบเป็นนักข่าวที่ถ่ายรูปได้
    ผมชอบเป็นนักข่าวที่ถ่ายรูปได้ เพราะยังรู้สึกว่าชอบงานเขียนมากกว่าถ่ายรูป ตอนเรียนที่ ม.กรุงเทพ ก็มีเพื่อนช่วยขอให้ถ่ายรูปด้วย ส่วนข่าวที่เขียนที่ประทับใจ ก็มีฆ่าหั่นศพญี่ปุ่น ชิโนริ แล้วก็ฆ่าหั่นศพชาวสเปน แล้วก็งานแรกที่เข้าเดลินิวส์ คือระเบิด 4 จุด ที่คลองตัน อันนั้นก็รู้สึกว่า เข้ามาแล้วเจอ ตอนนั้นยังไม่บรรจุ เป็นวันแรกที่เข้าเดลินิวส์ ทดลองงาน มีเหตุระเบิด 4 จุด

    เรียนรู้งานเฝ้าจากนักข่าวรุ่นพี่
    ขึ้นรถตระเวนวันแรก อยู่กับพี่เติ้ล เดลินิวส์ ตอนนี้เป็นรีไรต์แล้ว มึนๆ อยู่เหมือนกัน เดือนครึ่งอยู่คลองตัน ไม่ได้ทำอะไรเลย เราเด็กฝึกงาน ก็รู้ว่ามีงานแบบนี้ เขาเดินกันแบบไหน ก็เริ่มศึกษาจากพี่ๆว่า ไทยรัฐ เขาจะมีตัวหลอกมา ตัวทำจริงอยู่ข้างนอก อะไรอย่างนี้ มีทีวีเยอะ คดีนี้ใหญ่ แล้วจนถึงกระทั่งจับ แล้วงานที่ 2 ก็สนุก คือ ไฟไหม้ตึกฟิกโก้ ที่อโศก ใกล้ๆ ตึกแกรมมี่ ไหม้หนักมาก ผมก็ขึ้นตึกข้างๆ ขึ้นลิฟท์ ขาไป ขาลงๆ บันได อยู่ใกล้ๆ ตึกไฟไหม้อย่างกระชั้นชิดเลย ผมถ่ายรูปได้ ตอนฉีดน้ำพอดี ก็ชอบภาพนี้ ยังเก็บภาพไว้ รู้สึกว่ามันสวย

    มั่นใจไฮเทคกว่าใครในรุ่น
    ในปี 2555 ผมว่าผมเป็นคนแรกๆ ที่เสียบการ์ดเข้าไอแพด เป็นยุคเปลี่ยนผ่านเลย ผมเสียบแล้วส่งเมล์เข้าเดลินิวส์ ผมว่าผมส่งเร็วที่สุดในบริเวณนั้น ไม่มีใครเร็วกว่าผม ใช้ไอแพด 2 ใช้กล้องนิคอน แอร์การ์ดตอนนั้นยังไม่มี ต้องเสียบแบบที่เราเสียบทุกวันนี้ แต่ตอนนั้นมันยุคแรก มีสายยาว เป็นสายเสียบเข้า ส่งอีเมล เป็นดอกแรกเลยที่รู้สึกว่าเป็นยุคเปลี่ยนผ่านของจริง ยุคนั้นผมโชคดีที่ยังทันยุคก่อนด้วย แต่ตอนนั้นมีวอทแอพ ยังไม่มีไลน์ มีวอทแอพในไอโฟน ก็เรียนรู้ทั้งวอทแอพ ทั้ง ว.

    ดีต่อใจถ้าประเด็นที่คิด ได้ขึ้นหัว
    พี่ต่อ เดลินิวส์ จับนั่งในรถตระเวน ตั้งแต่ตอนดึก ให้ท่องให้ได้ ท่อง ว.แล้วก็เรียงดู พ.ร.บ.ตำรวจ ดูว่าตำรวจมีกี่ชั้นยศ มีชั้นประทวน มีชั้นสัญญาบัตร มี สบ 1 ถึง สบ 10 แล้วสอนข่าวเจาะด้วย ว่าเราก็ทำข่าวรูทีนจริง แต่อันไหนที่เราคิดได้เอง ก็ต้องไปแอบถาม แล้ววันไหนถ้าประเด็นที่เราคิดเอง แล้วได้ขึ้นหัว จะรู้สึกดีใจมากๆ เลย คิดมาจากบ้าน

    ย้ายไปเนชั่น เพราะอยากแสวงหา
    ที่ไปสมัครเนชั่น ด้วยความคิดตอนนั้น อยากออกจากกรอบ เพราะยังเด็กหนุ่ม วัยแสวงหา อยากหาอะไรที่ออกจากกรอบเดิมๆ เพราะคิดว่าตอนแรกเรียนจบมา เราจะต้องเป็นแบ็คแพ็ก มีกล้อง 1 ตัว แล้วไปได้ทุกที่ ทำสกู๊ปได้ ทำข่าวได้ ทำทีวีได้ ตัดต่อได้ ถ่ายรูปได้ สัมภาษณ์ได้ ตัดต่อวางไฟล์ได้ คืออยากเป็นแบบนั้น ด้วยเดลินิวส์ เหมือนเป็นโรงเรียนสำหรับเรา เหมือนเข้าโรงเรียนใหม่เลย 2 ปีนี่ได้อะไรเยอะแยะ

    ฝากถึงรุ่นน้อง ต้องมีความขยัน
    ถ่ายภาพข่าวยังไง ถ่ายภาพเหตุการณ์ยังไง สปีด สต๊อป แอคชั่น พอเห็นรูป 4 รูปหน้า 1 เดลินิวส์ ก็รู้สึกดีใจ เป็นอะไรที่ประทับใจ แบบว่าคือ มันไม่คาดคิดว่าเราจะได้เร็วขนาดนี้ คือเราเป็นเด็กฝึกงานอยู่ แล้วอยู่ดีๆ ถ่ายรูปได้ อาศัยหลายๆ อย่าง ทั้งดวง ทั้งจิตใจ ผมว่าจิตใจสำคัญ คือตกใจจริง แต่ถ้าไม่กด ก็ถือว่าพลาด ส่วนเรื่องที่จะสอนรุ่นน้องๆ ที่อยากจะเข้ามา ก็อยากฝากเรื่องความขยัน

    คนอื่นฝึก 8 ตัวเองฝึก 16 เพราะอยากเก่ง
    คนปกติฝึกงาน 8 ชั่วโมง แต่ผมฝึก 16 ชั่วโมง คือผมอยากเก่ง อยากรู้ อยากเห็น มีเคสหนึ่ง ตอนที่ทดลองงาน หลังจากถ่ายรูปนี้ได้แล้วล่ะ คือตอนนั้นมีจี้ตัวประกันบนรถเมล์ พี่แต้ม วิชัย สังข์ประไพ รองผบช.น.ไปเกลี้ยกล่อม ผมก็ไปเลย ใส่บ็อกเซอร์ตัวหนึ่ง เสื้อกล้าม เช้ามาไม่ได้เข้าเวร เปิด ว.ฟังเล่นๆ ที่พักอยู่สุทธิสาร พอ ว.ออกปุ๊บ ก็คิดว่าใกล้ๆ ลงมาก็โบกวินมอเตอร์ไซค์ ไปดินแดง บอกด่วนเลย

    เข้าเวร ไม่เข้าเวร มีเหตุไปหมด
    เขาก็ปิดถนนนะ แต่ก็บอกวิน ว่าให้ไปให้ถึงใกล้ๆ ที่สุด ผมก็ถ่ายๆ ไป คิดว่าผมก็ถ่ายรูปไว้ได้ดีเหมือนกัน วันนั้นไม่ได้เข้าเวร ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่าจะส่งยังไงด้วย คือไปเฉยๆ ไปแบบไม่ได้อะไรเลย ไปถึงเจอช่างภาพรุ่นใหญ่ๆ พอไปใกล้ๆ เขาก็ซุ่มตามต้นไม้ ผมก็เห็นว่ามันเกะกะ ก็ไม่รู้ว่าจะซุ่มทำไม หักต้นไม้ทิ้งเลย เขาก็ตะหงิดตะกงิดผมแล้ว คิดว่าหักต้นไม้ทำไม รื้อเลย ก็คิดว่าจะทำ พี่ที่เดลินิวส์นี่แหละ ช่างภาพ มันก็ประทับใจ เพราะว่าไม่ได้เข้าเวร ก็ได้รูป เป็นช่วงหลังจากที่ได้ 4 รูปนั้น มันฮึกเหิม จะเข้าเวร ไม่เข้าเวร เอาหมด มีอะไรไปหมด

    ประจำกองปราบฯ ทุกอย่างคือความรู้ใหม่
    ตอนนี้เป็นนักข่าวเนชั่น ประจำกองปราบปราม คือย้ายไปเนชั่นวันแรก ก็มาประจำที่กองปราบฯเลย เป็นอะไรที่รู้สึกงง มาจอดหน้าเสาธง มองหาเลยห้องนักข่าวนี่อยู่ตรงไหน เขาก็คงรู้โปรไฟล์เราบ้าง แล้วมาอยู่กองปราบ พี่ๆ ก็ให้แรงสนับสนุน ไปค้นโน่น ค้นนี่ ไปที่ไหน ก็ไปหมด ขอให้ได้ไป ไปทุกสถานการณ์ เพราะทุกอย่างเป็นสิ่งใหม่หมด เราต้องไปหาความรู้ใหม่ๆ ถ้าเราหยุดความรู้มันก็ไม่ได้ เดี๋ยวตกโลก นู่นนี่นั่น ก็อยากจะฝากรุ่นน้องๆ ว่า แค่ให้ขยัน ถ้าไม่รักในอาชีพนักข่าว ก็อย่าเป็นนักข่าวเลย

    เป็นนักข่าว ดีใจที่ได้ช่วยเหลือคน
    นักข่าวเราเสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง เราได้ช่วยเหลือคน ช่วยเหลือประชาชน พี่โจ๊ย-วัสยศ งามขำ ก็บอกผมแบบนี้ด้วย เราได้ช่วยเหลือคน ได้เสียสละ มีไม่กี่อาชีพหรอกที่ได้ช่วยเหลือคนอย่างนี้ มีคนมาแจ้งความ ไม่มีใครสนใจไปช่วย แม้จะไม่เป็นข่าว แต่เราก็ได้ช่วยแนะนำว่าจะต้องทำอะไรยังไง นู่นนี่นั่น……โน้ต เนชั่น ทิ้งท้าย

    อะแซหวุ่นกี้ 12/6/61

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments